ถึงแม้วานนี้ดัชนีจะยืนปิดบวกได้อีกหนึ่งวัน
แต่หากพิจารณาวอลุ่มการซื้อขายที่มีเพียง 8 พันกว่าล้านบาท โดยดัชนีแกว่งไกวไร้ทิศทางตลอดทั้งวัน
ก็คงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า สัปดาห์นี้ดัชนีคงไม่มีปัญญาขยับขึ้นไปยืนแถว 670 จุดอย่างแน่นอน
หลังตัวแปรหลายอย่างไม่เอื้อให้นักลงทุนเข้ามาเก็บหุ้นเลยพับผ่าซิ

*โมนิก้า จึงขอแนะนำให้นักลงทุนหาโอกาสขายหุ้นมากกว่าเข้าไปซื้อเพิ่ม หรือถัวเฉลี่ย
เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นยังไม่นิ่งพอ
แถมมาเจอขาใหญ่ปั่นหุ้นกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช โดยไม่เห็นหัวเจ๊ภัทรียา เบญจพลชัย แบบนี้...
ขาประจำอย่างเราๆ ท่านๆควรถอยออกมาให้ห่าง และปล่อยให้พวกขาจรตะลุยกันอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน

*เนื่องจากการหาผลกำไรจากหุ้นกลุ่มบลูชิพทำได้อยากเหลือเกินในภาวะเช่นนี้
เดี๊ยนถึงไม่ต้องการเอาตัวเข้าไปเสี่ยงโดยไม่มีเหตุจำเป็น
หลังเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋วว่า นักลงทุนกำลังตีจากตลาดหุ้น แล้วหันไปซบตลาดอนุพันธ์
เพราะถือเป็นทางเลือกที่สุดในยามนี้นั่นเอง

*เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของหุ้น PTT และ PTTEP
จนป่านนี้ยังย่ำฐานอยู่ที่เดิม คนที่มีอยู่ก็ไม่กล้าปล่อยหุ้นออกไป เพราะกลัวจะเป็นการขายหมู
ส่วนคนที่ยังไม่มีอยู่ในพอร์ต ก็ไม่กล้ากระโจนเข้าซื้อ เลยเป็นเหตุให้ราคาหุ้นแกว่งตัวในช่วงแคบๆ มาหลายสัปดาห์...

เดี๊ยนจึงขอยกคำพังเพยที่ว่า กำไรน้อยๆ แต่กำไรนานๆ
มาเตือนสตินักลงทุนที่คิดจะหาผลกำไรเป็นกอบเป็นกำในภาวะเช่นนี้

*สำหรับหุ้น CITKIT ที่ล่าสุดก็ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้บริหาร 5 ราย
รวมทั้งผู้สนับสนุนอีก 1 รายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว
ในประเด็นที่บริษัทมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญของลูกหนี้การค้าต่างประเทศจำนวน 3,440 ล้านบาท (ที่ไม่มีตัวตน)
จนทำให้บริษัทมีผลขาดทุน 2,657 ล้านบาท

*เกมนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารของบริษัท อุปโลกน์ลูกหนี้ เป็นเหตุให้บริษัทต้องตั้งสำรองสูงถึง 93 %
หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนทางของการผ่องถ่ายเงินจากบริษัทออกไปสู่ลูกหนี้ ที่มีการตั้งบริษัทรอไว้ก่อน
โดยมีการทำตัวเลขให้ดูดี เพื่อที่จะมีผลต่อราคาหุ้น และการขายหุ้นเพิ่มทุนในช่วงนั้น

*โมนิก้าต้องขอปรบมือให้กับก.ล.ต.ที่เข้าไปจัดการกับกลุ่มนี้
แต่ขอถามหน่อยว่าทำไมถึงได้ดำเนินการช้าแบบนี้
ซึ่งเดี๊ยนเห็นมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไม๊ ทำไมถึงได้เพิ่งจะรู้สึกตัวเจ้าคะ
ทางที่ดีหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องอายัดหนังสือเดินทาง กับวีซ่า ของผู้บริหารกลุ่มนี้ไว้ให้ดี โดยเฉพาะ ศิวะ งานทวี

*แรงไม่หยุดสำหรับหุ้น EVER(อี-เวอร์)
ที่วันก่อนดันหุ้นจาก floor จนปิดบวกไปได้จนเมื่อวานนี้ ก็สำแดงอภินิหาร โดยการดันราคาหุ้นอย่างสุดกู่
งานนี้ โมนิก้ารู้มาว่าเป็นการประสานมือระหว่างมือเก่า กับมือใหม่ เซียนปั่นหุ้น ( แต่ขอปิดไว้ก่อน)
แต่ถ้าใครอยากรู้ต้องคอยติดตามให้ดี เพราะเดี๊ยนจะมีอะไรมาแฉอีกเพียบ

*ถ้าใครรู้จักเสี่ย ไมค์ สดาวุธ เตชะอุบล ก็ช่วยฝากบอกด้วยนะคะ ว่า
โมนิก้ามีข้อมูลของเสี่ยอยู่ในมือเพียบ เพียงแต่ว่าจะเขียนเมื่อไรเท่านั้นเอง
แต่เมื่อมองทิศทางตอนนี้แล้วยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมคะ
รอจังหวะดีๆ รับรองมีอะไรมันๆ มาเล่าให้ฟังแน่คะ
ราคาหุ้นปิดแบบโอเวอร์สมชื่อที่ 8.90 บาท บวกไป 1.95 บาท หรือ 28.05 %

*ตามมาติดๆ สำหรับ MME ซึ่ง โมนิก้าไม่แปลกใจเลยที่หุ้นหมี่หมี จะขึ้นตาม EVER
เพราะขาใหญ่ ขาดันทั้งสองกลุ่มมีความใกล้ชิด สนิทสนมกันมาก
ชั่วโมงนี้ต้องระวังให้ดีนะคะ เพราะถ้าตลาดหลักทรัพย์ฯออกมาประกาศห้ามเน็ต หรือบัญชีมาร์จิ้น
คงทำให้ราคาหุ้นรูดเหมือนเดิมเจ้าคะ ราคาหุ้นปิดที่ 7.65 บาท บวกไป 1.25 บาท

*ด้านหุ้น SINGHA ที่มีวอลุ่มในช่วงที่ผ่านมา
ถือเป็นการดันราคาหลังจากที่ราคาหุ้นลงไปต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
จึงไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นขึ้น รวมถึงการปรับตัวขึ้นมาครั้งนี้ มีเสียงแววมาว่าต้องทะลุแนวต้านที่ 3.48 บาท ให้ได้
ถ้าไปได้จริง ราคาหุ้นจะไปปรับฐานที่ 4 บาท ใครที่คิดจะเข้าไปลุยให้หาจังหวะให้ดีนะคะ
ราคาหุ้นปิดที่ 3.34 บาท บวกไป 0.10 บาท

*สำหรับหุ้น น้องตั๊กTUCC ที่แอบมาเงียบๆ หลังจากที่ โมนิก้าเพิ่งบ่นถึงเมื่อวานนี้
ราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามประสาหุ้นที่กำลังจะมีข่าวดี
อย่างไรเสียข่าวพันธมิตรก็มีความคืบหน้าไปมากแล้วนะคะ ซึ่งถ้าเป็นจริงเมื่อไรจะรีบแจ้งให้ทราบเจ้าคะ
ราคาหุ้นปิดที่ 5.70 บาท บวกไป 0.60 บาท

*ส่วนหุ้นเหล็กกล้าอย่าง GSTEEL ที่มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาด ซึ่งสามารถยืนเหนือ 1 บาท ได้สำเร็จ
สถานการณ์ดังกล่าวคงบอกได้ว่างานนี้หุ้นต้องวิ่งต่อแน่นอนคะ
เพราะดูจากสัญญาณทางเทคนิคแล้ว หุ้นเพิ่งจะขึ้นนะคะ