.000c .0002

แบงก์กรุงเทพกำไรสุทธิหดเหลือ2พันล. [/color:42dd7f3812">

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2549 19:17 น. [/color:42dd7f3812">


ธนาคารกรุงเทพประกาศผลดำเนินงานครึ่งปีแรกกำไรสุทธิลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปี 2548 ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในไตรมาส 2 กลับเพิ่มขึ้นประมาณ 6,000 ล้านบาท เมื่อเทียบสิ้นไตรมาสแรก[/color:42dd7f3812">

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าธนาคากรุงเทพได้รายงานผลประกอบการก่อนหักภาษีสำหรับครึ่งปีแรกมีกำไร 13,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินเชื่อขยายตัวได้ดี ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยและมิใช่ดอกเบี้ยนั้นเพิ่มขึ้น และเมื่อหักภาษีแล้วมีกำไรสุทธิ 9,574 ล้านบาท ลดลง 2,003 ล้านบาท เทียบปีที่แล้ว โดยสินเชื่อธนาคารขยายตัวร้อยละ 5.5 จาก 912,003 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2548 เป็น 962,151 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 โดยกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และต่างประเทศขยายตัวมากที่สุด[/color:42dd7f3812">

ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 9,345 ล้านบาท เป็น 35,501 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 6,363 ล้านบาท เป็น 13,770 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารในครึ่งปีแรกปรับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 3.13 จากร้อยละ 2.65 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้มิใช่ดอกเบี้ยดีขึ้นโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เป็น 11,837 ล้านบาท เพราะมีกำไรสุทธิจากเงินลงทุน 802 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละ 9.3 เป็น 7,167 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากบริการอิเล็กทรอนิกส์และบริการบัตรเครดิต และมีกำไรจากปริวรรตเงินตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 เป็น 1,726 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายมิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 เป็น 17,200 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายสำรองการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขยายเพิ่มขึ้น 942 ล้านบาท[/color:42dd7f3812">

สำหรับสินเชื่อไม่ก่อเกิดรายได้ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 เพิ่มขึ้นจาก 102,493 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.9 เมื่อเทียบสิ้นเดือนมีนาคม 2549 เป็น 108,589 ล้านบาท และคิดเป็นร้อยละ 11.2 ของสินเชื่อรวม[/color:42dd7f3812">


.000b

.0008 .........แถมข่าวให้ อ่ะ พี่โกะ .0008

ส.ค.นี้แบงก์ตัวเบา บสก.ซื้อเอ็นพีเอล็อตแรก BBL-KBANK ประเดิมแบ่งขายกองแรก4,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท ตามลำดับ ระบุเงื่อนไขหลังเซ็นเอ็มโอยู 120วัน ต้องส่งมอบสินทรัพย์ให้ผู้ซื้อ บรรยง ยอมตายรักษาเป้าสุดชีวิต ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว คุยสิ้นปี49 ต้องใกล้ 1.2 หมื่นล้านบาท
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้คณะกรรมบริษัท (บอร์ด) บสก.ได้อนุมัติในหลักการ เพื่อรับซื้อสินทรัพย์รอการขาย หรือ NPA จากธนาคารพาณิชย์แล้ว และได้ทำหนังสือเวียนไปยังสมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อรับทราบแล้ว คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างรอบอร์ดของแบงก์ต่างๆ ประชุมกันในรายละเอียดว่าจะขายเอ็นพีเอล็อตแรกให้กับบสก.จำนวนเท่าใด
ทั้งนี้เงื่อนไขในการซื้อเอ็นพีเอดังกล่าวระบุว่า หลังจากมีการเซ็นสัญญาซื้อขาย(MOU) แล้วแบงก์ต่างๆ จะต้องส่งมอบหลักทรัพย์ให้กับบสก.ภายใน 120 วัน โดยหลักทรัพย์ดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นกองๆ ละไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะรับโอนเอ็นพีเอจากธนาคารต่างๆ ประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท โดยสินทรัพย์ที่จะโอนเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นทรัพย์เกรด B และ C กว่า 60% เป็นที่ดินเปล่า 20% เป็นบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และอีก 20% เป็นโรงงาน
เท่าที่ติดตามตอนนี้มีหลายแบงก์ที่เป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทยกว่า 20 แห่งสนใจจะขายเอ็นพีเอให้บสก. แต่ขอรอดูประชุมบอร์ดก่อนว่าจะขายกองแรกออกมาเท่าใดโดยปัจจุบันมียอดเอ็นพีเอของแบงก์พาณิชย์ต่างๆ ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท
นายบรรยง กล่าวยืนยันว่า บริษัทยังไม่มีแผนจะปรับเป้ารายได้ปี 2549 ที่ตั้งไว้12,000 ล้านบาท แม้ว่าเป้าดังกล่าวจะสูง และภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว จากการกดดันของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และราคาน้ำมันแพงก็ตาม โดยคาดว่าจะรักษาระดับรายได้ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้
นายชรัส เฟื่องอารมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ของบสก. กล่าวว่า บริษัทจะเน้นการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายในครึ่งปีหลังโดยล่าสุดเตรียมเปิดโชว์รูมเพิ่มอีก 2 แห่งในสิ้นปีนี้ จาก 24 แห่งเป็น 26 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นยังได้เปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดกับลูกค้าที่สนใจ
น.ส.กรองทอง การุณย์นราทร ผู้จัดการฝ่ายขายทรัพย์สิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL และประธานชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่าปัจจุบันชมรมฯ มีสมาชิกทั้งหมด 18 ราย และมีมูลค่าเอ็นพีเอรวมประมาณ 2.7 แสนล้านบาท หรือประมาณ 7 หมื่นรายการ คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถระบายยอดเอ็นพีเอไปถึงมือผู้บริโภคประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท (ไม่นับรวมยอดที่จะขายให้กับบสก.)
ทั้งนี้ในส่วนของแบงก์กรุงเทพเกรดเอ็นพีเอที่จะขายให้บสก. ส่วนใหญ่เป็นเกรด บีซี และดี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของทรัพย์ทั้งหมดที่มีประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนเกรดเอ แบงก์จะบริหารเองทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอดขายในครึ่งปีแรกประมาณ 4,800 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 3,000-4,000 ล้านบาท
โดยล่าสุดได้ร่วมกับทางสมาคมธนาคารไทยจัดงาน มหกรรมบ้านธนาคาร ครั้งที่2 ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้นำเอาเอ็นพีเอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดกว่า 2,500ล้านบาท หรือกว่า 200 รายการมาขายในงานด้วย โดยคาดว่าจะมียอดขายกว่า 80 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายอติพัฒน์ อัศวจินดา ผู้อำนวยฝ่ายอาวุโสฝ่ายบริหารคุณภาพสินทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า ธนาคารเตรียมขายเอ็นพีเอให้กับบสก. ประมาณ 3,000 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของเอ็นพีเอทั้งหมด 14,300 ล้านบาท โดยแบงก์ตั้งเป้าจะเอ็นพีเอให้เหลือต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท หรือประมาณไม่ถึง 1%ของมูลค่าสินทรัพย์ของแบงก์ทั้งหมดภายในปี 2550 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5%

.0008

.0008 .0008